บทความและข่าวสาร

How to หาลูกค้าง่ายๆ ด้วย การตลาดออนไลน์

การตลาดออนไลน์ คืออะไร ดียังไง และต้องเริ่มต้นแบบไหน วันนี้ Hermes มีเทคนิคสำหรับ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มือใหม่ ที่กำลังหาลูกค้าเข้าร้านมาฝากกัน ทำตามเทคนิคนี้ รับรองได้เลยว่ามีลูกค้าตัวยงแน่นอน

How to หาลูกค้ตัวยง ด้วยการตลาดออนไลน์

การตลาดออนไลน์คืออะไร ?

พูดง่ายๆ ก็คือการ โฆษณา ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ  เช่น Website Facebook Tiktok  เพื่อให้สินค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยเป้าหมายหลักๆคือ การเพิ่มยอดขาย สร้างความน่าสนใจ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น  

ข้อดี ของการตลาดออนไลน์

1. ค่าใช้จ่ายไม่สูง และมีประสิทธิภาพ

การทำการตลาดออนไลน์ มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการโฆษณาในสื่อต่างๆ เช่น โทรทัศน์ หรือหนังสือพิมพ์ ซึ่งเราสามารถเลือกรูปแบบโฆษณาที่เหมาะกับงบประมาณของเรา และปรับแต่งการเลือกกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ช่องทางการโฆษณาแต่ละแพลตฟอร์ม ยังมีเครื่องมือการติดตาม และวิเคราะห์ผล ที่ช่วยให้เราวิเคราะห์ผลตอบรับและปรับปรุงโฆษณาของได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.มีฐานข้อมูลที่ชัดเจน

บนแต่ละแพลตฟอร์ม จะมีตัวช่วยวิเคราะห์ข้อมูล ที่สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย และสามารถทำการกำหนดให้โฆษณา แสดงกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้ โดยอาศัยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความสนใจ อายุ ที่อยู่ และความต้องการของลูกค้า ทำให้โฆษณาของเรามียอดขายที่เพิ่มขึ้น 

2.เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและลูกค้าได้ทุกที่ทุกเวลา 

เราสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ตลอดเวลา ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Website Facebook Tiktok เป็นต้น ซึ่งแพลตฟอร์มเหล่านี้ จะช่วยให้เราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าได้ตลอดเวลา  และตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ทันที

 

เราได้รวบรวมแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ทุกธุรกิจควรมีไว้ในบทความ 6 แพลตฟอร์มที่ธุรกิจหรือแฟรนไชส์เปิดใหม่ต้องมี   สามารถไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Hermes 

 

 ” ถ้าแบรนด์ของคุณ ยังไม่เป็นที่รู้จัก ก็เหมือนธุรกิจของคุณไม่มีตัวตน “

เพราะฉะนั้นเรามาสร้างตัวตนของคุณให้เป็นที่รู้จักกันเถอะ เทคนิคง่ายๆแค่ 5 ขั้นตอน ทำครบปุ๊ป ลูกค้าเข้าปั๊ป มีลูกค้าตัวยงแน่นอน!

การตลาดออนไลน์ แบรนด์ยังไม่เป็นที่รู้จัก

เทคนิคที่ 1 : การตลาดออนไลน์ เพื่อ ‘สร้างการรับรู้’

การ ‘สร้างการรับรู้’ นั้น ไม่จำเป็นต้องใช้งบเยอะ แถมยังวัดผลลัพธ์ได้สะดวกรวดเร็วอีกด้วย  ซึ่งวิธีการ สร้างก็มี 2 แบบ คือ Inbound และ Outbound

  • Inbound  คือ การทำการตลาด โดยเน้นสร้างความน่าสนใจและดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้เข้าหาเราผ่านทาง Social Media โดยการสร้างเนื้อหามีคุณค่า ผ่าน Story เรื่องราว แทนการ  โฆษณาแบบแทรกแซง  พูดง่ายๆ คือ แทนที่เราวิ่งเข้าหาลูกค้า เราทำให้ลูกค้าเดินเข้ามาหารเองดีกว่า  ซึ่งการตลาดออนไลน์   แบบ Inbound  ก็จะมีทั้งการทำ Content marketing   การทำ SEO บน Google  และใช้สื่อ Social Media Platform ต่าง ๆ และอื่นๆอีกมากมาย ข้อดี ของวิธีนี้ก็คือไม่ต้องใช้งบในการโฆษณาเยอะเท่ากับแบบ Outbound  
  • Outbound คือ การใช้การโฆษณาบน Social Media Platform ต่าง ๆ เข้ามาช่วย เรียกได้ว่าใช้งบแบบจัดเต็มทั้ง Google Ads Facebook Ads LINE Broadcast และโฆษณาเพิ่มเติมทางช่างอื่นๆ ซึ่งเราสามารถกำหนดงบประมาณขั้นต่ำและควบคุมค่าใช้จ่ายได้ ข้อดี ของวิธีนี้ก็คือวัดผลได้รวดเร็วและสะดวกสบายอีกด้วย

ทริคจาก Hermes : การเลือกทำการตลาดทั้งแบบ Inbound และ Outbound ต้องเลือกตามความเหมาะสมของธุรกิจ ไม่ใช่ความชอบส่วนบุคคล เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุณต้องทำคือวิเคราะห์ธุรกิจของคุณว่า เหมาะสมกับแบบไหนมากว่ากัน ถ้าคุณเลือกถูกคุณก็อาจจะไปได้ไกล และไปได้เร็วกว่าเดิมก็ได้

สร้างการรับรู้และการค้นหา

เทคนิคที่ 2 : การตลาดออนไลน์ เพื่อ‘สร้างการค้นพบ’

เทคนิคนี้ เป็นการสร้าง Story หรือ เรื่องราวของแบรนด์ เพื่อบ่งบอกตัวตน ให้กลุ่มเป้าหมายจดจำและรู้จักเรามากขึ้น  โดยกลุ่มเป้าหมายจะเห็นเรา จากทาง Social Media และเริ่มค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมทาง Google เพื่อเข้าชมเว็บไซต์ของเรา 

ทริคจาก Hermes : จุดสำคัญคือ เว็บไซต์ของเรา ต้องอยู่หน้าแรกของ Google เท่านั้น!! งานนี้ใครทำการตลาดออนไลน์ ถือว่าได้เปรียบสุดๆ เพราะคนส่วนใหญ่จะเลือกคลิกเว็บไซต์ที่อยู่ในหน้าแรกของ Google ถึง 95% และ 70-80% ของคนที่เสิร์ช จะเลือกคลิกเว็บไซต์ที่ติดอันดับเท่านั้น! ลองคิดดูว่าถ้าลูกค้าตั้งจะเสิร์ชหาคุณแต่เสิร์ชเจอแบรนด์อื่นๆหรือแบรนด์คู่แข่งของคุณก่อนละก็ โอกาสในการขายก็จะลดลงทันที ! 

นำเสนอจุดเด่นของแบรนด์

เทคนิคที่ 3 : การตลาดออนไลน์ เพื่อ‘ให้เกิดการพิจารณา’

ในเทคนิคนี้เราจะต้องสร้างโฆษณา หรือ คอนเทนต์ ที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เช่น การอธิบายว่าสินค้าของเราจะช่วยแก้ปัญหาหรือช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นยังไง สินค้าของเราเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณมากแค่ไหน เพื่อให้เกิดการพิจารณา คิด ตัดสินใจ และอาจจะหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบรนด์ของเราผ่านทางเว็บไซต์ การรีวิวต่าง ๆ

ทริคจาก Hermes :  ขั้นตอนนี้ กลุ่มเป้าหมายของเราจะเริ่มเปรียบเทียบข้อมูลของแต่ละแบรนด์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ผ่านโฆษณาบน Social Media Platform ต่างๆเรียกว่า เป็นการแข่งกันทำคอนเทนต์ เลยก็ว่าได้ เพราะถ้ากลุ่มเป้าหมายถูกใจ หรือชอบ โฆษณาของแบรนด์ไหนแล้วโอกาสในการตัดสินใจซื้อก็จะมีสูงตามไปด้วย 

การพิจารณาและเปลี่ยนเป็นลูกค้า

เทคนิคที่ 4 : การตลาดออนไลน์ เพื่อ‘เปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายให้กลายลูกค้า

ขั้นตอนนี้คือขั้นตอนตัดเชือก สิ่งที่เราจะต้องทำนั่นก็คือ สร้างโฆษณาที่เจาะจงถึงจุดเด่นหรือเอกลักษณ์ที่มีเฉพาะแบรนด์ของเราเท่านั้น      เพราะกลุ่มเป้าหมายเริ่มจะกลายเป็นลูกค้าของเราแล้ว เราต้องพยายามโน้มน้าวใจ และกระตุ้นความอยากซื้อ โดยอาจใช้การเสนอโปรโมชั่น     แจกส่วนลด หรือเพิ่มของแถม เพราะถ้าขั้นนี้ไม่สำเร็จขั้นตอนที่เราทำมาทั้งหมดก็เท่ากับศูนย์

ทริคจาก Hermes :  สิ่งที่สำคัญมากที่สุด ในขั้นนี้คือการทำให้กลุ่มเป้าหมายเห็นว่าคุณแตกต่างจากแบรนด์อื่นยังไง รูปร่างหน้าตาสินค้า ส่วนลด ของแถม ยิ่งมีข้อแตกต่างเท่าไหร่ยิ่งทำให้ตัดสินใจซื้อง่ายมากขึ้น

สร้างความประทับใจและบริการหลังการขาย

เทคนิคที่ 5 : การตลาดออนไลน์ เพื่อ‘การดูแลหลังการขาย’

เมื่อเราทำให้กลุ่มเป้าหมายกลายมาเป็นลูกค้าได้แล้วขั้นตอนต่อไป ก็คืการเปลี่ยนลูกค้าหน้าใหม่ที่เพิ่งใช้สินค้า ให้กลายเป็นลูกค้าตัวยงที่จะอยู่คู่กับแบรนด์เราไปอีกนาน บอกเลยว่า ขั้นตอนนี้ แทบไม่เกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ หรือการโฆษณาใดๆ เพราะตัวแปรสำคัญอยู่ที่การดูแลเอาใจใส่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ยิ่งเราเข้าถึงใจลูกค้ามากเท่าไหร่ ลูกค้าก็จะกลับมาซื้อสินค้าของแบรนด์เรามากขึ้นเรื่อย ๆ

ทริคจาก Hermes : สำหรับธุรกิจที่ไม่มีบริการหลังการขาย เทคนิคที่ Hermes แนะนำ ก็คือการสร้างคอนเทนต์ สำหรับลูกค้ากลุ่มนี้โดยเฉพาะ  เช่น การรับประกันสินค้า การติดตามผลหลังการใช้สินค้า การขอรีวิวต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าประทับใจและอยากกลับมาซื้อสินค้าเราอีกครั้ง

สานสัมพันธืและสร้างฐานลูกค้าตัวยง

เทคนิคที่ 6 : การตลาดออนไลน์ เพื่อ‘การรักษาฐานลูกค้าเดิม’

ขั้นตอนนี้ไม่ยากเลย แต่สินค้าเราต้องมีคุณภาพ เหมาะสมกับราคาเราอาจเพิ่มยอดขายอีกสักหน่อยเพิ่มส่วนของ การตลาดออนไลน์ ด้วยคอนเทนต์ ที่เหมาะกับกลุ่มลูกค้าเดิมของเรา เช่น ให้ส่วนลดลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าเรา หรือบัตรสะสมแต้มแลกของรวมถึงการจัดกิจกรรมอีเวนท์ต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ลูกค้าเดิมตัดสินใจซื้อซ้ำแบบไม่ต้องคิดมาก และเลือกใช้แบรนด์เราไปแบบยาวๆเลย

ทริคจาก Hermes : สำหรับธุรกิจที่ไม่มีบริการหลังการขาย เทคนิคที่ Hermes แนะนำ ก็คือการสร้างคอนเทนต์ สำหรับลูกค้ากลุ่มนี้โดยเฉพาะ  เช่น การรับประกันสินค้า การติดตามผลหลังการใช้สินค้า การขอรีวิวต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าประทับใจและอยากกลับมาซื้อสินค้าเราอีกครั้ง

แต่ละเทคนิคดูเหมือนจะง่าย แต่จริงๆแล้วทุกขั้นตอนก็มีดีเทล และรายละเอียดที่ต้องอาศัยประสบการณ์และการวิเคราะห์พอสมควร


“ให้ Hermes ช่วยแบ่งเบาภาระคุณ ในการทำการตลาดออนไลน์ คิดคอนเทนต์ ดูแลเพจ ออกแบบกราฟิก เพื่อให้คุณมีเวลาเพิ่มมากขึ้นในการต่อยอดแบรนด์ หรือธุรกิจของคุณให้ประสบความสำเร็จ”

 

แค่นี้ การหาลูกค้าก็เป็นเรื่องง่าย และการตลาดออนไลน์ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแค่วางแผนการตลาดให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไร

Hermes เชื่อว่า ธุรกิจของคุณจะเติบโตอย่างมั่นคงและรวดเร็วแน่นอน !

 

บริการของเรา

- ออกแบบเว็บไซต์
- บริการ SEO
- บริการยิงโฆษณา
- ดูแลเพจครบวงจร
- ออกแบบและผลิตสื่อ
- บริการถ่ายภาพและวิดีโอ

เราพร้อมให้คำปรึกษาฟรี

บริษัท เฮอร์เมส ดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด
logo Hermes Digital Marketing

Hermes Digital Marketing

เราพร้อมรองรับทั้งธุรกิจขนาดเล็กและใหญ่ เพื่อเปิดโอกาสให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างมั่นใจ ด้วยเว็บไซต์และการตลาดออนไลน์ที่มีคุณภาพ จากทีมงานมืออาชีพ

Contact Us

Office address